การศึกษาพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ในโครงการ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชียงใหม่

Abstract

การวิจัยครั้นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1 ศึกษาถึงพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้านในโครงการแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชียงใหม่ ได้แก่ ลักษณะโครงการที่อยู่อาศัยที่ซื้อ ราคาที่ซี้อ ระยะเวลาที่ใช้ในการตัดสินใจ ลักษณะวิธีการซื้อ เหตุผลในการเลือกซื้อ กางค้นหาข้อมูล สื่อการประชาสัมพันธ์ของโครงการ 2) ศึกษาถึงความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้ซื้อในโครงการ ได้แก่ ลักษณะที่อยู่อาศัยที่ต้องการ ราคาที่อยู่อาศัยที่คิดว่าเหมาะสม เงื่อนไขการชำระเงินที่คิดว่าเหมาะสม ระยะเวลาที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยหลังต่อไป และ 3) ศึกษาถึงปัญนา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินกิจกรมทางการตลาดที่เหมาะสมของธุรกิจบ้านจัดสรร ผู้ให้ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้คือ ผู้ซื้อทั้งที่อยู่อาตัยและไม่ได้อยู่อาศัยในโครงการแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชียงใหม่ ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างจากการอาศัยความน่าจะเป็น (Probability Sampling) ใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น(Stratified Random Sampling) จัดสรรขนาดตัวอย่างตามสัดส่วนผู้ซื้อ ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 136 ราย โดยใช้แบบสอบถามที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย จากนั้นนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสถิติสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (SPSS/PC+ for window) ผลการวิจัยมีดังนี้ ผู้ซื้อส่วนใหญ่ซื้อทาวน์เฮ้าส์ มีระดับราคาช่วง 699.000 - 1,000,000 บาท ระยะเวลาที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อ 1 - 2 เดือน ลักษณะวิธีการซื้อ ซี้โดยรู้จากสถาบันการเงินที่โครงการจัดให้โดยสามารถจ่ายเงินดาวนได้ 20% ของราคาสุทธิ สาเหตุที่ผู้ซื้อต้องการที่อยู่อาศัยเนื่องจากต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ผู้ซื้อค้นหาข้อมูลโดยแวะดูโครงการ และบ้านตัวอย่างด้วยตนเอง ผู้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกชื้อที่อยู่อาศัยคือคู่สมรสผู้ซื้อทั้งที่อยู่อาศัยและไม่ได้อยู่อาศัยในโครงการฯ ส่วนใหญ่ไม่ต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยหลังต่อไปเป็นผู้ซื้บ้านเดี่ยว 2 ขั้น ส่วนผู้ที่ยังมีความต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยหลังต่อไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อทาวเอ้าส์ โดยลักษณะที่อยู่อาศัยที่ผู้ซื้อต้องการคือบ้านเดี่ยวชั้น มีเหตุผลต้องการชนาดที่อยู่อาศัยที่กว้างขึ้น ที่อยู่อาศัยหลังต่อไข่ควรมีราคาช่วง 1.,000.001-1.500.001 บาท ระยะเวลาที่ผู้ซื้อจซื้อที่อยู่อาศัยหลังต่อไปภายในระยะเวลา 2 - 3 ปี ความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการที่ซื้อและอยู่อาศัยพบว่าส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าราคาที่อยู่อาศัยน่าจะลกลงกว่าปัจจุบัน ทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยควรอยู่แถปซานเมืองที่ไม่แออัดและมีความสะดวกในการคมนาคม ความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายสำหรับที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่มีการส่งเสริมการขายที่ดีอยู่แล้ว ส่วนปัญหาภายหลังการซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุดคือการบริการหลังการขายที่ลำข้า ไม่สัมพันธ์กันกับค่าบริการสาธารณูปโภค รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ควรปรับปรุงทั้งรูปแบบและวัสดุช่อสร้าง ซึ่งมักเกิดปัญหาภายหลังการเข้าอยู่อาศัยแล้ว จะนั้นจึงควรขยายระยะเวลาการรับประกันตัวอาคารให้มากกว่านี้