Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ir.mju.ac.th/dspace/handle/123456789/860
Title: | การจัดการตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ |
Other Titles: | Agro-tourism marketing management in Chiang Mai province, Thailand Agro-tourism marketing management in Chiang Mai province, Thailand |
Authors: | อำนวยพร ใหญ่ยิ่ง, amnuayporn yaiying วีระพล ทองมา สายสกุล ฟองมูล วินิตรา ลีละพัฒนา รดาพร ทองมา กฤต พันธุ์ปัญญา |
Keywords: | การท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ -- ผลงานวิจัย การท่องเที่ยว -- การตลาด การท่องเที่ยว -- การจัดการ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงเกษตร -- เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ --คอลเล็คชันพิเศษ -- สิ่งพิมพ์ภาคเหนือ ห้องสมุด‡xคอลเลคชันพิเศษ -- นโยบายสีเขียว 2563/ป |
Issue Date: | 2017 |
Publisher: | Maejo University |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อระบุปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการ ท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ ตามกลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด (8 P's of marketing) และ 2) เพื่อกําหนดตําแหน่งทางการตลาดของการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ให้ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้มีจํานวน 140 คน ได้แก่กลุ่มผู้บริหาร/ ผู้กําหนดนโยบายของภาครัฐ กลุ่ม ผู้ประกอบการและหน่วยงานหรือองค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยว กลุ่มประชาชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและกลุ่มคณะผู้วิจัย นักวิชาการและนักศึกษาระดับปริญญาโทและเอก สาขาวิชาพัฒนาการท่องเที่ยว สําหรับเครื่องมือในการวิจัยนั้น ได้ใช้แบบสัมภาษณ์ถึงโครงสร้างที่ ผ่านการทดสอบความตรง และความเชื่อมั่นแล้ว จากนั้นนําไปสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล ร่วมกับการ สังเกตการณ์การประชุมกลุ่มย่อย การจัดประชุมเวทีชาวบ้าน หรือแม้แต่การนําชาวบ้านไปศึกษาดู งาน รวมทั้งการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ จากนั้นนําข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสถิติสําเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามหลักการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และ อุปสรรค (SWOT analysis) พบว่า การจัดการตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่บริหารจัดการโดย องค์กรกลุ่มภาครัฐ/ วิสาหกิจ และกลุ่มองค์กรภาคเอกชน มีจุดแข็งด้านกิจกรรม ความหลากหลาย ของทรัพยากร สําหรับโอกาสนั้นพบว่า การจัดการตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรสามารถเชื่อมโยง แหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงกัน และแนวโน้มของนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจในการท่องเที่ยวเชิง เกษตรเพิ่มขึ้น ส่วนการจัดการตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่บริหารจัดการโดยองค์กรภาค ประชาชน มีจุดอ่อนและอุปสรรคในการบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรนั้นก็คือ ประชาชน ยังขาดความรู้ความเข้าใจในหลักการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการตลาดและการบริการด้านการ ท่องเที่ยว และปัจจุบันมีการแข่งขันทางการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่ปัญหาทางการเมืองและ เศรษฐกิจ รวมทั้งการกําหนดราคาของบริษัทนําเที่ยวและผู้ประกอบการที่ไม่มีความแน่นอนนั่นเอง สําหรับผลการวิเคราะห์ค่าคะแนนเพื่อกําหนดตําแหน่งกลยุทธ์และประเมินการ ปฏิบัติการ (SPACE matrix) พบว่า การจัดการตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่บริหารจัดการโดย องค์กรกลุ่มภาครัฐ/ วิสาหกิจ และกลุ่มองค์กรภาคเอกชน ควรมีการกําหนดกลยุทธ์แบบก้าวหน้า (aggressive strategy) เนื่องจากทั้ง 2 องค์กรมีจุดเด่นด้านกิจกรรมการท่องเที่ยวที่คงความเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่น่าสนใจ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่มีชื่อเสียงอีกด้วย แต่ การจัดการตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่บริหารจัดการโดยองค์กรกลุ่มประชาชน มีจุดอ่อนและ อุปสรรคมาก จึงควรมีการลดจุดอ่อนและหลีกเลี่ยงอุปสรรคโดยการใช้กลยุทธ์การป้องกัน (defensive strategy) การแข่งขันทางการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน รวมทั้งสถานการณ์ ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การกําหนดราคาของบริษัทนําเที่ยวและ ผู้ประกอบการไม่มีความแน่นอน ดังนั้นสมาชิกชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวโดยชุมชนทั้งสองชุมชน ต้อง ร่วมกันวางแผนและดําเนินการด้วยการขยายตัวสู่ตลาดให้มากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มบริการที่ประทับใจ แก่นักท่องเที่ยว |
URI: | http://ir.mju.ac.th/dspace/handle/123456789/860 |
Appears in Collections: | STD-Bachelor’s Project |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
amnuayporn_yaiying.pdf | 158.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.