การบริหารจัดการด้านการศึกษาของคณะสงฆ์ ตําบลสันทรายน้อย อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

Abstract

การศึกษาวิจัยเรื่อง การบริหารจัดการด้านการศึกษาของคณะสงฆ์ ตําบลสันทรายน้อย อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาการบริหารจัดการศึกษา ของคณะสงฆ์ตําบลสันทรายน้อย อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 2) ศึกษาการมีส่วนร่วมของคณะ สงฆ์ในการจัดการศึกษาที่เหมาะสมต่อการศึกษาของคณะสงฆ์ตําบลสันทรายน้อย อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 3) ศึกษาการแนวทางการจัดการศึกษาที่เหมาะสมต่อการศึกษาของคณะสงฆ์ตําบล สันทรายน้อย อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักในการศึกษา คือ คณะสงฆ์ และครูพระในเขตตําบลสันทรายน้อย เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นการสัมภาษณ์ด้วยการ สัมภาษณ์เป็นรายบุคคลแบบมีโครงสร้างการศึกษาครั้งนี้พบว่า รูปแบบการบริหารจัดการด้านการศึกษาของคณะสงฆ์ในเขตตําบลสัน ทรายน้อยประกอบด้วย 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารระบบการศึกษา ด้านการบริหารการพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ด้านการบริหารพัฒนาคุณภาพครู และบุคลากรด้านการบริหารพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศ ในส่วนของการมีส่วนร่วมของคณะสงฆ์ในเขตพื้นที่ในการบริหารจัดการศึกษาโรงเรียน พระปริยัติธรรมแผนกธรรมในเขตตําบลสันทรายน้อย อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ การมีส่วนร่วม คือ การร่วมวางแผน การร่วมปฏิบัติ การร่วมประเมินผล การร่วมรับผลประโยชน์ส่วนด้านของแนวทางการจัดการศึกษาที่เหมาะสมต่อการศึกษาของคณะสงฆ์ตําบลสันทราย น้อย อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ คือ แนวทางการจัดการศึกษาในยุทธศาสตร์การจัดระบบ การศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพการศึกษา แนวทางการจัดการศึกษาในยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน แนวทางการจัดการศึกษาในยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพครู คณาจารย์และบุคลากร และ แนวทางการจัดการศึกษาในยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาข้อเสนอแนะต่อโรงเรียนพระปริยัติธรรมในการศึกษาครั้งนี้พบว่า เพื่อทําให้เกิดการงานที่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผลจึงควรมีการสรุปผลการปฏิบัติงานทั้งในระยะเวลาระหว่าง ปฏิบัติงานทุกๆ เดือน และครูผู้สอนควรจะมีการทํารายงานผลการจัดการเรียนการสอนทุกๆครั้งอย่าง เคร่งครัด และเมื่อสิ้นสุดแผนการจัดการเรียนการสอน ควรจะมีการนําเอาปัญหาและอุปสรรคที่เกิด ขึ้นมาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนาต่อไปข้อเสนอแนะในการทําวิจัยครั้งนี้พบว่า 1. ควรมีการศึกษาการจัดการศึกษาที่เน้นการนําเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปรับปรุง ระบบการจัดการศึกษา รวมไปถึงการนํานวัตกรรมของภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเสริมความรู้และพัฒนาไป พร้อมกันกับเทคโนโลยี เพื่อในทิศทางที่มีระบบ มีกฎเกณฑ์ทั้งในด้านระบบการทํางานและมาตรฐาน คุณภาพชีวิตของนักเรียนที่เข้าเรียนให้ดียิ่งขึ้นไป