Please use this identifier to cite or link to this item: http://ir.mju.ac.th/dspace/handle/123456789/2342
Title: EFFECTS OF THE COVID-19 CRISIS ON GARLIC DISTRIBUTION BY FARMERS IN CHIANG DAO DISTRICT CHIANG MAI PROVINCE
ผลกระทบจากวิกฤติการณ์โรคโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายกระเทียมของ เกษตรกรในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
Authors: Nat Thorthong
ณัฐ ท่อทอง
Phahol Sakkatat
พหล ศักดิ์คะทัศน์
Maejo University
Phahol Sakkatat
พหล ศักดิ์คะทัศน์
phahol@mju.ac.th
phahol@mju.ac.th
Keywords: ผลกระทบต่อการจัดจำหน่าย, เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม, การจัดจำหน่าย, โรคโควิด-19
Garlic farmers
Garlic distribution
COVID-19
Impact
Issue Date:  16
Publisher: Maejo University
Abstract: This study are conducted to investigate: 1) Socio-economic albitites of farmers growing garlic ; 2) Impacts of COVID-19 pandemic crisis on garlic distribution due to the farmers ; 3) factors effecting the garlic distribution due to the COVID -19 pandemic crisis ; and 4)problems encountered and suggestions of the farmers, A set of questionnaires was used for data collection administered with a sample group of 246 farmers growing garlic in Chiang  Dao district.. Obtained data were analyzed by using descriptive statistics and multiple regression. Results of the study revealed that most of the respondents were male, 52.46 years old on average, married and elementary school graduates. The respondents had 3.44 household Members on average with an annual income of 245,5,69.11 baht. They had an agricultural land for 5:15 rai each and 4.22 rai was their own land on average. Their product cost was 113,833.33 baht on average. The respondents had 5.71 years of experience in garlic growing and contacted concerned personnel 1.31 time per year on average. They were group members for 2.78 years and perceived agricultural information through media for 9.30 times per year on average, Besides, the respondents had attended training or joined educational trip for 1.29 time a year on average. Findings showed that the respondents had a moderate level of impacts on garlic storage place and marketing but a high level in garlic transportation. There was a relationship between the independent variable and the following: educational attainment, land tenure, income, production costs, experience, personnel contact, news perception. Two main problems found were: 1) the respondents did not have own vehicle for garlic transportation and 2) middleman could not go the village to get garlic two suggestion were proposed: 1) the public sector should find additional places for garlic storing and 2) provision of a low interest loan for the respondents.
การศึกษาผลกระทบจากวิกฤติการณ์โรคโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายกระเทียมของเกษตรกรในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาลักษณะพื้นฐานส่วนบุคคล เศรษฐกิจ และสังคมของเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาผลกระทบจากวิกฤติการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายกระเทียมของเกษตรกรในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 3) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีต่อผลกระทบจากวิกฤติการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายกระเทียมของเกษตรกรในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 4) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 246 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม พ.ศ. 2567 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นพหุคูณแบบคัดเลือกเข้า (Enter Multiple Regression Analysis) ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สามารถสรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะผลการวิจัย ได้ดังนี้ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ (ร้อยละ 65.04) เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 52.46 ปี ส่วนใหญ่มีสถานภาพสมรสแล้ว ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาประถมศึกษา ลักษณะเศรษฐกิจ พบว่า จำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 3.44 คน มีพื้นที่ถือครองในการทำเกษตรเฉลี่ย 5.15 ไร่ ส่วนใหญ่มีพื้นที่ดินในการปลูกข้าวของตนเองเฉลี่ย 4.22 ไร่ มีพื้นที่เช่าในการปลูกเฉลี่ย 0.89 ไร่ มีรายได้เฉลี่ย 245,569.11 บาท มีต้นทุนในการลงทุนปลูกกระเทียมเฉลี่ย 113,833.33 บาท มีค่าปุ๋ย 45,989.84 มีค่ายา 39,386.18 และมีค่าแรงงาน 21,294.72 ลักษณะทางสังคม พบว่า ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการปลูกกระเทียม เฉลี่ย 5.71 ปี มีการติดต่อเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเฉลี่ย 1.31 ครั้งต่อปี มีการเป็นสมาชิกกลุ่มกระเทียมเฉลี่ย 2.78 ปี มีการได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับการเกษตรจากสื่อต่างๆ เฉลี่ย 9.30 ครั้งต่อปี ผ่านทางเสียงตามสายเฉลี่ย 4.53 ครั้งต่อปี มีการฝึกอบรมหรือศึกษาดูงานที่เกี่ยวกับกระเทียมเฉลี่ย 1.29 ครั้งต่อปี ผลการศึกษาพบว่า 1. ด้านสถานที่จัดเก็บ ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรมีผลกระทบจากวิกฤตการณ์โรคไวรัสโควิด-19 (COVID -19) ต่อการจัดหาปัจจัยการผลิตในด้านสถานที่จัดเก็บ (ค่าเฉลี่ย 3.49) โดยรวมในระดับปานกลาง จากสาเหตุที่แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรมีระดับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายด้านสถานที่จัดเก็บในระดับปานกลาง 2. ด้านการตลาด ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรมีผลกระทบจากโรคโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายในด้านการตลาดที่จัดเก็บ (ค่าเฉลี่ย 3.41)  โดยรวมในระดับปานกลาง จากสาเหตุที่แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรมีระดับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายด้านการตลาดในระดับปานกลาง 3. ด้านการขนส่ง ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรมีผลกระทบจากวิกฤตการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายในด้านการขนส่ง (ค่าเฉลี่ย 4.01)  โดยรวมในระดับมาก จากสาเหตุที่แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรมีระดับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ต่อการจัดจำหน่ายด้านการขนส่งเก็บในระดับมาก ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีต่อผลกระทบโดยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ พบว่าตัวแปรอิสระมีความสัมพันธ์กับตัวแปรตามปัจจัยการจัดจำหน่ายกระเทียมในช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19 มี 7 ตัวแปร ได้แก่ การศึกษา พื้นที่ถือครอง รายได้ ต้นทุน ประสบการณ์ การติดต่อเจ้าหน้าที่ การรับรู้ข่าวสาร ปัญหาและอุปสรรคในการจัดจำหน่ายกระเทียมของเกษตรกร ได้แก่ เกษตรกรไม่มีพาหนะในการขนส่งสินค้าไปจำหน่ายเองและพ่อค้าคนกลางไม่สามารถเข้ามารับซื้อสินค้าในหมู่บ้าน เกษตรกรเสนอแนะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยหาพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติม และการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่เกษตรกร
URI: http://ir.mju.ac.th/dspace/handle/123456789/2342
Appears in Collections:Agricultural Production

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6401333002.pdf4.68 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.