DEVELOPMENT STRATEGY TO CREATE COOPERATION WITHPRIVATE AND PARTNERSHIP IN DEVELOPING BUAKHAO VILLAGETO TOURIST DESTINATION IN THE WORLD OF SPORT EDUCATION, AGRICULTURE FOOD SAFE AND ARTS AND CULTURE OF MUAY THAI ACCORDING TO SOCIAL BUSINESS AND SOCIALRESPONSIBILITY ACTIVITIES APPROACH

Abstract

This study was qualitative research and the objectives of the research were: 1) To formulate a development strategy to create cooperation in developing Buakaw Village to become a world tourist attraction on education, safe agriculture, and Muay Thai art and culture according to social enterprise and social responsibility activities, 2) To apply the development strategy to create cooperation in developing Buakaw Village to become a world tourist attraction on education, safe agriculture, and Muay Thai art and culture according to social enterprise and social responsibility activities into practice. This is qualitative research that used a semi-structured interview, small group discussion, and academic seminars. The Key informants consist of public representatives, local leader representatives, public and private organizations Muay Thai representatives, and Muay Thai academic department representatives.

The result of development strategies to create cooperation in Buakaw Village’s development as a world tourist attraction found that there are two phases of development, namely analysis of local units or development units to find target problems, and identifying target problems by identifying conditions, finding cooperation in developing Buakaw Village as a world tourist attraction on education, safe agriculture, and Muay Thai arts and culture A development strategy is formulated that includes a contextual analysis strategy to identify the rationale and necessity for the establishment and development of the project, a strategy for a feasibility study of development projects for creating cooperation with various sectors such as public sector, private sectors, and civil society; besides, fundraising strategies for developing of the Buakaw Village to become a world tourist attraction.

The results of the research on the implementation of the strategy were carried out by analyzing the strengths, weaknesses, critical points, and opportunities for the development of Buakaw Village. By the way, principles and rationale for development projects related to economic conditions, the situation of global and national tourism, and the spatial context of Chiang Mai, the objective of the project aims to make Bua Khao Village a world tourist attraction on education, safe agriculture, and Muay Thai art and culture which is a business model for society, communities, and the nation by giving opportunities for all sectors to become partners in the form of membership that requires management analysis, organization positioning, organizational configuration, human resource management, and technical analysis of the land where it is located; moreover, there is analysis landscape designation of buildings, information technology systems, materials, and equipment. Furthermore, there is market analysis related to competition, customers, sales promotions, products, and service design, Importantly, an analysis of finance and investment found that the Buakhao Village Development project was expected to use investments of 120,000,000 million baht, 65,500,000 of which is owner's capital, and 55,000,000 million of liabilities from loans to invest. Financially, it was found that when considering financial indicators, it was found that the business had investment possibilities, namely 1 ) Dept Equity Ratio (DE) was 0.85, which was in the right proportion, i.e. having capital, 2) Net Present Value (NPV)was equal to 10,324,183 million baht, which is greater than zero, meaning future income of the business converted to present value is greater than investment, 3) Internal rate Return of Scale (IRR) was equal to 11.50, which means the internal return on investment was higher than the loan interest rate, i.e. 7 percent, 4) Pay Back Period (PP) was 3 years and 2 months, which assumes that the business can return the capital within less 5 years, and 5) funding sources found that the business was a project that many groups of investors were interested in investing in Buakaw Village and obtaining a landscape plan of Buakaw Village in five models waiting to be developed into an integrated model.

According to developing Buakaw Village following the guidelines of social enterprise, it was sharing a part of the profit from the business donated to Banchamek Foundation to return profits to the community by supporting public benefits such as scholarships, providing assistance to community public activities, and helping the marginalized poor on occasion. In addition, Buakhao Village played an important role in driving and revitalizing the economy of Thailand and Chiang Mai Province including a tourist city that people around the world know and have dreams of wanting to visit because Chiang Mai Province was a charm city consisting of soil, water, forests, mountains, ancient cultural sites, and complete facilities.

งานวิจัยเรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาบัวขาววิลเลจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลกด้านการศึกษา การเกษตรปลอดภัยและศิลปวัฒนธรรมมวยไทยตามแนวทางการทำธุรกิจเพื่อสังคม มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาบัวขาววิลเลจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลกด้านการศึกษา การเกษตรอาหารปลอดภัย และศิลปวัฒนธรรมมวยไทย ตามแนวทางการทำธุรกิจเพื่อสังคมและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม 2. เพื่อนำยุทธศาสตร์การพัฒนาการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาบัวขาววิลเลจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลกด้านการศึกษา การเกษตรอาหารปลอดภัย และศิลปวัฒนธรรมมวยไทย ตามแนวทางการทำธุรกิจเพื่อสังคมและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมสู่การปฏิบัติ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง การสนทนากลุ่มย่อย และการสัมมนาทางวิชาการ ผู้ใช้ข้อมูลสำคัญประกอบด้วยผู้แทนประชาชน ผู้แทนผู้นำท้องที่ ผู้แทนหน่วยงานองค์กรภาครัฐและเอกชน ผู้แทนภาคส่วนมวยไทยและผู้แทนภาควิชาการ

ผลการวิจัยเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาบัวขาววิลเลจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลก ที่พบว่าต้องมีการวิเคราะห์ปัญหาเชิงการพัฒนาในสองระยะคือ การวิเคราะห์หน่วยท้องถิ่นหรือหน่วยพัฒนาเพื่อค้นหาปัญหาเป้า และการะบุปัญหาเป้าโดยการระบุสภาพปัญหาการพัฒนาความร่วมมือในการพัฒนาบัวขาววิลเลจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลกด้านการศึกษา เกษตรอาหารปลอดภัย และศิลปวัฒนธรรมมวยไทย โดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ประกอบด้วยยุทธศาสตร์การวิเคราะห์บริบทเพื่อระบุเหตุผลและความจำเป็นในการจัดตั้งและพัฒนาโครงการ ยุทธศาสตร์การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพัฒนา ยุทธศาสตร์การสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม และยุทธศาสตร์การระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการบัวขาววิลเลจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

ผลการวิจัยทางด้านการนำยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติดำเนินการได้โดยทำการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน จุดวิกฤต และโอกาสเพื่อการพัฒนาบัวขาววิลเลจ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการที่ประกอบด้วย หลักการและเหตุผลของโครงการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวนระดับโลกระดับประเทศ บริบทเชิงพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ วัตถุประสงค์ของโครงการที่มุ่งหวังให้บัวขาววิลเลจเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกทางด้านการศึกษา การเกษตรปลอดภัย ศิลปวัฒนธรรมมวยไทย ที่เป็นธุรกิจในรูปแบบเพื่อสังคม ชุมชน และประเทศชาติโดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนในลักษณะการเป็นสมาชิกที่จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์การบริหารจัดการ การวางตำแหน่งองค์กร การกำหนดรูปแบบองค์กร การบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงต้องมีการวิเคราะห์ด้านเทคนิคเกี่ยวกับที่ดินที่ตั้ง การกำหนดรูปแบบอาคารสถานที่ภูมิทัศน์ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนการวิเคราะห์การตลาดที่เกี่ยวกับการแข่งขัน ลูกค้า การส่งเสริมการขาย การออกแบบสินค้าและบริการ ประการสำคัญคือ การวิเคราะห์ด้านการเงินและลงทุน พบว่า โครงการการพัฒนาบัวขาววิลเลจ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน จำนวน 120,000,000 ล้านบาท เป็นทุนของเจ้าของ จำนวน 65,500,000 บาท และหนี้สินจากการกู้ยืมเงินมาลงทุน จำนวน 55,000,000 ล้าน เมื่อพิจารณาความเห็นไปได้ทางการเงิน พบว่า เมื่อพิจารณาตัวชี้วัดทางการเงิน พบว่า กิจการมีความเป็นไปได้ในการลงทุน กล่าวคือ 1) มีอัตราสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (Dept Equity Ratio : DE) เท่ากับ 0.85 ซึ่งอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ มีทุนมากกว่าหนี้สิน 2) มีมูลค่าปัจจุบัน (Net Present Value : NPV) เท่ากับ 10,324,183 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าศูนย์ แปลว่า รายได้ในอนาคตของกิจการแปลงมาเป็นมูลค่าปัจจุบันมีค่ามากกว่าเงินลงทุน 3) มีอัตราผลตอบแทนภายในจากการลงทุน (Internal rate Return of Scale: IRR) เท่ากับ 11.50 แปลว่า ผลตอบแทนภายในจากการลงทุนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ คือ ร้อยละ 7 4) ระยะเวลาคืนทุน (Pay Back Period: PP) เท่ากับ 3 ปี 2 เดือน ซึ่งถือว่ากิจการสามารถคืนทุนได้เร็วคือต่ำกว่า 5 ปี และ 5) ด้านแหล่งเงินทุน พบว่า กิจการเป็นโครงการที่มีนักลงทุนหลายกลุ่มให้ความสนใจรวมลงทุนบัวขาววิลเลจ รวมถึงการได้แบบแผนผังภูมิทัศน์บัวขาววิลเลจในห้ารูปแบบที่รอการพัฒนาให้เป็นแบบบูรณาการ

ด้านการพัฒนาบัวขาววิลเลจตามแนวทางการทำธุรกิจเพื่อสังคม คือ การดำเนินธุรกิจที่มีการแบ่งผลกำไรจากการประกอบธุรกิจส่วนหนึ่งบริจาคเข้ามูลนิธิบัญชาเมฆ ทั้งนี้เพื่อคืนกำไรสู่ชุมชนโดยสนับสนุนการทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ คือ การให้ทุนการศึกษา การให้การช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณะองชุมชน และ การสงเคราะห์ชวยเหลือคนยากจนชายขอบ ตามโอกาสสมควร นอกจากนั้นบัวขาววิลเลจมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่ คือ การเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและมีความใฝ่ฝันอยากมาเยือน เพราะเมืองเชียงใหม่มีมนต์เสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวทั้งในด้าน ดิน น้ำ ป่า เขา แหล่งวัฒนธรรมโบราณ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครันทุกด้าน