ผลของความหนาแน่นต่อการเปลี่ยนแปลงระดับออกซิเจนในบ่อปลากะพงขาวที่เลี้ยงด้วยระบบน้ำหมุนเวียน

Abstract

การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในระบบน้ำหมุนเวียน (RAS) เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากสามารถเลี้ยงปลาในระดับความหนาแน่นสูงได้ แต่ส่วนที่ต้องคำนึงคือความเหมาะสมของการเติมออกซิเจนภายในบ่อเลี้ยง การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพการเติมออกซิเจนของเครื่องเติมอากาศในบ่อเลี้ยงปลากะพงขาวในน้ำจืดโดยศึกษาผลของการใช้เครื่องเติมอากาศแบบท่อยางยืดหยุ่นและเครื่องเติมอากาศแบบอีเจคเตอร์ ต่อการเปลี่ยนแปลงระดับออกซิเจนในบ่อเลี้ยง โดยการตรวจสอบค่า KLa ของเครื่องเติมอากาศแต่ละแบบ ในบ่อพลาสติกขนาด 3 ตัน ผลการวิจัยพบว่าเครื่องเติมอากาศแบบท่อยางยืดหยุ่นให้อัตราการถ่ายเทออกซิเจนที่ดีที่สุด (p<0.05) (มีค่า KLa=0.0609 min-1) เมื่อเทียบกับเครื่องเติมอากาศแบบอีเจคเตอร์ 1 ชุด และ 2 ชุด (มีค่า KLa= 0.0321 min-และ1 0.0519 min-1 ตามลำดับ) จากนั้นทำการติดตั้งเครื่องเติมอากาศแบบท่อยางยืดหยุ่นในบ่อระบบน้ำหมุนเวียน (RAS) ขนาด 60 ตัน โดยทำการทดสอบที่ความหนาแน่นของปลากะพงขาว 3 ระดับ ได้แก่ความหนาแน่นที่ 10.9, 15.5 และ 20.5 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร ขนาดปลา 300 กรัม/ตัว และที่ความหนาแน่น 11.0, 16.7 และ 21.2 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร สำหรับปลา 620 กรัม/ตัว ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงออกซิเจนในรอบวัน พบว่าหลังให้อาหารมื้อที่ 2 ระดับ DO ลดลงต่ำกว่า 3 มิลลิกรัม/ลิตร ของทุกความหนาแน่นของปลาทั้ง 2 ขนาด ดังนั้นจึงควรมีระบบการให้ออกซิเจนที่เพียงพอต่อความต้องการของปลากะพงขาวที่เลี้ยงระบบน้ำหมุนเวียนระบบปิด (RAS) ในส่วนการศึกษาต้นทุนผลตอบแทนและวิธีการเพิ่มผลผลิตด้วยการเพิ่มออกซิเจนที่เหมาะสมในการผลิตปลากะพงขาวด้วยระบบน้ำหมุนเวียนระบบปิด (RAS) พบว่า บ่อที่เพิ่มออกซิเจนด้วยเครื่องเติมแบบท่อยางยืดหยุ่น 400 วัตต์ จำนวน 2 ตัว จะได้กำไรสูงสุดที่ 40,624 บาท/รอบการเลี้ยง แสดงให้เห็นว่าการเลี้ยงปลากะพงขาวในระบบน้ำหมุนเวียนเหมาะสมสำหรับการเลี้ยงในเชิงพาณิชย์